การจัดประสบการณ์สำหรับเด็ก

สิ่งที่เด็กปฐมวัยจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อให้ได้ทักษะในศตวรรษที่ 21

“การลงทุนพัฒนาเด็กปฐมวัย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าให้ผลตอบแทนแก่สังคมดีที่สุดในระยะยาว” โดยคืนผลตอบแทนกลับคืนมาในอนาคตมากถึง 7 เท่า

จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าการลงทุนโดยเริ่มต้นที่ “เด็กปฐมวัย” เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเด็กปฐมวัยเป็นช่วงจังหวะทองของการสร้างเสริมพัฒนาการเด็ก เป็นการวางรากฐานของการพัฒนาความเจริญเติบโตในทุกด้าน โดยเฉพาะทางด้านสมองเพราะสมองนั้นเติบโตและพัฒนาเร็วที่สุด ดังนั้นการอบรมเลี้ยงดูในช่วงระยะนี้มีผลต่อคุณภาพของคนไปตลอดชีวิต

แต่มีหลายความคิดที่มองว่าการเรียนของเด็กปฐมวัยเป็นการเรียนแบบง่าย ๆ ครูปฐมวัยไม่จำเป็นต้องสอนอะไรมาก แค่สอนเด็กขีด ๆ เขียน ๆ พูด 2-3 คำก็ให้เด็กกินนมและนอนกลับบ้าน แต่ความจริงแล้วการสอนเด็กปฐมวัย จำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้ในวิชาต่าง ๆ อาทิเช่น ภาษาอังกฤษ คณิตฯ ไทย วิทยาศาสตร์ คัดลายมือ พลศึกษา ทักษะการเล่านิทาน รวมถึงต้องเก่งจิตวิทยาและการแก้ปัญหาเฉพาะได้ดีอีกด้วย นั้นก็เพราะครูปฐมวัยต้องรับมือกับเด็ก ๆ ที่มาจากหลากหลายพื้นฐานครอบครัว ซึ่งเด็กแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป เด็กบางคนร้องไห้ บางคนเอาแต่ใจตัวเอง บางคนก้าวร้าว ซุกซน ครูปฐมวัยจึงมีหน้าที่ที่จะต้องคอยอบรม ดูแลพวกเขาให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ และนี่คือสิ่งที่เด็กปฐมวัยจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อให้ได้ทักษะในศตวรรษที่ 21 และพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน อย่างสมวัย

มาทำความเข้าใจการเรียนของเด็กและครูปฐมวัย ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าสอนง่าย ความจริงแล้วมีความแตกต่างกับการเรียนของเด็กในระดับอื่น ๆ

1. เน้นการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการเสริมประสบการณ์
เด็กปฐมวัยต้องได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จำเป็น ที่แตกต่างไปจากเด็กวัยอื่น ๆ ฉะนั้นการจัดการเรียนการสอนของเด็กปฐมวัยจึงเน้นการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการเสริมประสบการณ์ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ในหลายทักษะ มากกว่าการเรียนแบบรายวิชา ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนทางเลือกเกิดขึ้นมากมาย ที่เน้นการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ เพื่อให้เด็กได้ฝึกทักษะ และกระบวนการคิด อาทิเช่น แนวการเรียนรู้ภาษาอย่างธรรมชาติแบบองค์รวม แนวการสอนแบบพหุปัญญา แนวการสอนแบบProject Approach แนวคิดมอนเตสซอรี่ แนวคิดไฮสโคป แนวคิดวอลดอร์ฟ แนวคิดเรกจิโอ เอมิเลีย ฯลฯ

การจัดประสบการณ์สำหรับเด็ก

2.เรียนรู้ผ่านการเล่น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับพัฒนาการ 4 ด้าน
ลงลึกมาถึงการจัดการเรียนการสอน อย่างที่บอกมาข้างต้นว่าเด็กปฐมวัยเน้นการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ มากกว่าการเรียนการสอนแบบรายวิชา ซึ่งครูปฐมวัยจะรู้กันดีว่ามันเรียกว่า การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยแต่ละวันเด็กจำเป็นต้องเรียนรู้ผ่านการเล่น ผ่านกิจกรรมหลัก ๆ 6 กิจกรรม คือ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมการเคลื่อนไหว กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านให้กับเด็ก ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคมและด้านสติปัญญา และทุกครั้งครูผู้สอนจะต้องจัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์ พร้อมทั้งนำผลการประเมินมาพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กด้วย

3.เนื้อหาการเรียนที่ครอบคลุม 4 สาระ

ไม่ได้เน้นวิชาใดวิชาหนึ่งเหมือนเด็กวัยอื่น แต่เป็นการเรียนแบบคลอบคลุม 4 สาระ ที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก ซึ่งเด็กจำเป็นต้องเรียนรู้จากสิ่งใกล้ตัวเด็กไปสู่ไกลตัวเด็กนั้นคือ

1.สาระเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก

2.สาระเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่

3.สาระธรรมชาติรอบตัวเด็ก

4.สาระสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็ก

สิ่งสำคัญในการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย คือ การยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ในการจัดประสบการณ์ คือจะต้องจัดให้สอดคล้องเหมาะสมกับเด็กและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น เพื่อที่เด็กจะได้ฝึกฝนตนเองให้เหมาะกับชุมชนหรือท้องถิ่นรอบ ๆ ตัวเด็ก นอกจากนี้จะต้องจัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาตนเองได้อย่างมีศักยภาพและความสามารถ ครูปฐมวัยจึงมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างมาก

การลงทุนกับการศึกษาปฐมวัยไม่ใช่การบังคับให้เด็กนั่งเรียนอย่างจริงจัง หน้าติดแบบฝึกหัด มือจับดินสอตลอดเวลา เหมือนกับเด็กประถม เด็กมัธยม เพราะนั่นคือการทำร้ายพัฒนาการด้านต่าง ๆของเด็ก แต่ควรเป็นการฝึกพัฒนาการพื้นฐานทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ siamdatahost.com

Releated