เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เผยถึงเหตุผลที่ไม่ถูกผู้บริหาร

สโมสรปลดออกจากตำแหน่งทั้งๆที่มีผลงานอย่างหนักในซีซั่นนี้คล็อปป์ ซึ่งเคยพาทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์คว้าแชมป์รายการใหญ่มาได้ครบถ้วนไม่อาจสานต่อผลงานที่ยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้ได้โดยจากสถานการณ์ล่าสุด หงส์แดง เสี่ยงต่อการคว้าอันดับท็อปโฟร์ไม่น้อย แถมพวกเขาตกรอบฟุตบอลถ้วยทุกรายการไปแล้วด้วยขณะเดียวกัน กุนซือใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้หลายรายต่างทะยอยกันตกเก้าอี้กันเป็นใบไม้ร่วงโดยล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เลสเตอร์

ประกาศปลด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือ หงส์แดง ขณะที่ เชลซี อัปเปหิ แกรม พ็อตเตอร์ เช่นกัน รวมเป็นผู้จัดการทีมใน พรีเมียร์ลีก 12 รายแล้วของซีซั่นนี้ที่โดนไล่ออกซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดต่อกรณีดังกล่าว คล็อปป์ วัย 55 ปียอมรับว่าเหตุที่ไม่ตกงานในซีซั่นนี้ก็เป็นเพราะผลงานในอดีตที่เขาสร้างเอาไว้กับสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ นั่นเอง”หากซีซั่นนี้เป็นซีซั่นแรกของผม มันก็น่าจะแตกต่างไป” กุนซือด๊อยทช์ กล่าวยอมรับเมื่อ 3 เม.ย.”ผมรู้ว่าเหตุที่ผมยังนั่งอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะอดีต ไม่ใช่เพราะสิ่งที่ผมทำในซีซั่นนี้””เรามีเจ้าของที่ใจกว้าง พวกเขารู้ถึงสถานการณ์ ไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องกลัว ผมอยู่ที่นี่เพื่อสร้างผลงาน ผมไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเป็นเครื่องลาง หรือว่ายันต์ติดผนังบ้าน””ผมรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตสองสามปีก่อน ผมไม่ชอบพึ่งพาเรื่องที่ว่า แต่มันจะถูกต้องหรือเปล่า เราจะได้เห็นกันในอนาคต”ต่ออันดับตารางซึ่ง ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 8 และเหลือเกมให้ลงเล่นอีก 11 นัดโดยมีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล

ทีมจ่าฝูง 30 แต้มนั้น คล็อปป์ เอ่ยว่า “ผมยังเต็มที่ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย

แต่เราต้องแก้ไขปัญหาให้ได้””เราไม่อาจปล่อยให้นักเตะเล่นกันแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก มันไม่ควรเกิดขึ้น””ผมผิดหวังมากที่เราเป็นแบบนี้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้เราต้องหาทางออกให้เจอ และเรายังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง”ผมพยายามมองว่ามันเป็นหนึ่งในเกมที่อะไรก็แย่ไปหมด ทีมฟุตบอลแต่ละทีมล้วนเคยเจอประสบการณ์อย่างนั้น คือตัวเองไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอก แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นมันเลวร้าย เลวร้ายทั้งฟอร์มการเล่น

เลวร้ายทั้งผลการแข่งขันที่ออกมาเป็นวันแย่ๆ วันหนึ่งที่ดูไร้เรี่ยวแรง มองไปทางไหนก็เจอแต่เสียงถอนหายใจ45 นาทีหลังของเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยมก็คงเป็นลักษณะอย่างนั้น นักเตะลิเวอร์พูลกลายเป็นแมวเชื่องๆ ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ต้อนเอาแบบตามใจชอบ และมันอาจจะเป็นครึ่งเวลาที่นักเตะเรือใบสีฟ้าพบว่าเป็นภารกิจที่ราบรื่นเกินคาดครึ่งแรกกับครึ่งหลังต่างกันเหมือนคนละเกม ช่วงพักครึ่งเวลาเดอะค็อปยังคาดหวังได้ด้วยซ้ำถึงการบุกน็อกรองจ่าฝูงและแชมป์เก่าคาบ้าน ย้ำแค้นทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ด้วยการเอาชนะได้แบบไป-กลับ เพราะเกมแดนหลังของซิตี้เปิดพื้นที่โล่งให้จังหวะโต้กลับได้โจมตีหลายครั้งการครองบอลแม้จะเป็นของซิตี้แต่ลิเวอร์พูลตั้งรับได้ดีมีสมาธิ หาโอกาสตอบโต้ได้ตลอด มีเป้าหมายในการเล่นชัดเจน โกดี้ คักโป เชื่อมเกมด้วยการลงมาเอาบอลแล้วพลิกกระชากขึ้นไปเองได้อย่างน่าน่าสนใจ บทบาทตรงนี้ของดาวเตะดัตช์เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ลิเวอร์พูลเล่นได้มั่นใจแม้จะครองบอลน้อยกว่าและถูกกดดันจากเกมด้านข้างของเจ้าถิ่นทั้ง กรีลิช และ ริยาด มาห์เรซ ซิตี้อาจจะขาดตัวรุกคนสำคัญทั้ง ฟิล โฟเด้น และ เออร์ลิง ฮาลันด์ แต่คุณภาพของพวกเขายังคงอัดแน่นและยังคงรักษาบุคลิกการเล่นไว้อย่างชัดเจนด้วยบอลสั้นเร็วและการเคลื่อนหาพื้นที่ผมชอบประตูขึ้นนำของลิเวอร์พูลที่กล้าต่อบอลอย่างมั่นใจไม่ลนลาน ผ่านบอลไปเรื่อยๆ ในแดนตัวเองแล้วในทันใดนั้น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ตวัดยาวตูมเดียวโชต้าได้หลุดเดี่ยวทันที

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมทุกวันตรงนี้ siamdatahost.com